bookmark_borderหลักการใช้หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง

   ปัจจุบันนี้หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดำรงชีวิตอยู่นอกบ้าน เพราะหน้ากากอนามัยจะช่วยกรองเชื้อโรคต่างต่างไม่ให้เข้ามาสู่ร่างกายเราได้  การที่คนเราใช้หน้ากากอนามัยเวลาที่เราไม่สบายนั้นก็เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคจากร่างกายของเราจะแพร่ไปสู่คนอื่นอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ต้องให้คนอื่นมาเดือดร้อนป่วยไปพร้อมกับเราด้วย  เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเบื้องต้นได้ด้วย 

          เชื่อว่าทุกคนรู้จักหน้ากากอนามัยกันอยู่แล้วเป็นอย่างดี ยิ่งในสภาวะที่กำลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบนี้ไม่ว่าจะเด็กเล็กแค่ไหนก็ต้องรู้จักกันทั้งนั้น เพราะทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้งเพื่อปัองกันการติดเชื้อ บางคนอาจจะใส่หน้ากากอนามัย แต่อาจจะเป็นการใส่หน้ากากที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นวันนี้เราจะมาทวนวิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องกันค่ะ

      ปัจจุบันเรามักจะเห็นว่าหน้ากากอนามัยนั้นมีสองแบบ

ซึ่งแบบแรกจะมีลายการ์ตูนน่ารักด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจะเป็นเป็นพื้นสี ทำให้เราจะรู้ได้ทันทีว่าลายการ์ตูนจะอยู่ด้านหน้า แต่ถ้าอีกแบบหนึ่งจะมีสีพื้นอย่างเดียวเท่านั้น เช่น หน้ากากอนามัยที่มีเขียว หรือหน้ากากอนามัยที่มีสีขาวล้วน นั้นให้เราสังเกตว่าหากฝั่งไหนเป็นสีเข้มให้เอาฝั่งนั้นอยู่ด้านนอก และที่สำคัญที่หน้ากากอนามัยจะมีด้านหนึ่งทีมีลวดแข็งอยู่ริมถ้าส่วนอีกด้านจะไม่มี ให้เราเอาส่วนที่เป็นลวดอยู่ด้านบน โดยให้เราพับครึ่งที่ลวดด้านบนแล้วใส่หน้ากากอนามัยเข้าที่ใบหน้าได้เลย

โดยจะมีสายเอาไว้คล้องที่หูทั้งสองข้าง  การสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล เชื้อโรคไม่สามารถเข้ามาหาเรา หรือหลุดออกจากเราไปแพร่ให้คนอื่นได้นั้นเราควรมีการใส่หน้ากากอนามัยให้ผ้าแนบชิดกับจมูกให้มากที่สุด แต่อันที่จริงการที่เราจะใส่หน้ากากอนามัยสลับด้านกันนั้นก็ไม่ได้ทำให้คุณภาพของหน้ากากอนามัยลดน้อยถอยลง

เพราะตัวกรองเชื้อโรคนั้นแท้จริงแล้วมันก็ยังอยู่ตรงกลางของผืนผ้าอยู่ดี เพียงแต่ว่าการใส่ที่ถูกวิธีจะทำให้ดูสวยงามมากกว่า และอีกอย่างคือผ้าด้านที่สีอ่อนกว่าจะป้องกันน้ำลายได้ดีกว่าแต่อย่างไรก็ดี ก่อนที่เราจับหน้ากากอนามัยมาสวมใส่เราก็ควรที่จะล้างมือฆ่าเชื้อโรคให้มือของเราสะอาดเสียก่อน และหากเราถอดหน้ากากออกแล้วจะใส่ใหม่ก็ควรจะล้างมือใหม่อีกรอบก่อนใส่หน้ากากเช่นกันเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของเรา

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์2020

bookmark_borderรับประทานไข่อย่างไรให้ได้รับโปรตีนที่เหมาะสม?

ถ้าเรามีไข่ซักหนึ่งฟองจากนั้นเราก็แยกไข่แดง กับ ไข่ขาวออกเราจะพบว่าในไข่แดง และ ไข่ขาวนั้นพอได้มารวมกันแล้วก็จะได้โปรตีนเฉลี่ย7กรัมแต่ถ้าเกิดเราแยกออกจากกันปริมาณโปรตีนนั้นก็อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย  ที่นี้เรามาถามถึงปริมาณในสารอาหารถ้าเรากินแยกระหว่างไข่ขาวกับไข่แดง ในไข่แดง

นั้นจะมีเกลือแร่บางตัว ซึ่งอาจจะไม่พบใน ไข่ขาว เช่นใน ไข่แดงเราจะพบว่ามี ฟอสฟอรัสสูง ในขณะที่ ไข่ขาว นั้นจะมีทั้งปริมาณโซเดียม และ โพแทสเซียม สูงกว่าในไข่แดง หรือใน ไข่แดง

ถ้าเรารับประทานก็จะได้รับ วิตามิน A D E K ซึ่งมันละลายง่ายในไขมันแต่ใน ไข่ขาวนั้นไม่ได้อะไรเลย

เพราะฉะนั้นถ้าเรากินไข่ขาวอย่างเดียวก็อาจจะทำให้ขาด วิตามิน A D E K แต่ถ้าเกิดว่าเรารับประทานแต่ไข่แดงอย่างเดียวเราก็จะไม่ได้สิ่งสำคัญเช่น เกลือแร่ เชื่อมโพแทสเซียม  โซเดียม ก็ไม่ได้ สรุงแล้วเราควรรับประทานทั้งไข่แดงละไข่ขาวมันถึงจะได้ประโยช์น หลายๆคนที่ได้ยินที่เมื่อก่อนนั้นกลัวกันในการรับประทานไข่โดยเฉพาะไข่แดงมีคอลแลตตอลอนสูงมากแต่ในงานวิจัยในระยะหลังมานี้ก็ได้มีพูดถึงเรื่องว่าการรับประทานคอลแลตตอลอนจากอาหารนั้น

ไม่ได้ส่งผลให้กับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะฉะนั้น คอลแลตตอลอนที่อยู่ในเลือดของเราสร้างจากตัวเราเองประมาณถึง80ถึง90% และในส่วนที่เหลือนั้นอาจจะมาจากอาหารแต่ทีนี้ในตัวคอลแลตตอลอนเองก็มีความสำคัญร่างกายถึงได้สร้างเอาไปสร้างฮอร์โมนหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับวิตามินดี และที่เกี่ยวข้องกับหลายๆเรื่องด้วยกันดังนั้นการที่เรามีคอลแลตตอลอนก็มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ร่างกายของเรานั้นได้ทำงานได้อย่างปกติ

 คอลแลตตอลอนชนิดที่ไม่ดี ( LDL )

เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดพบในไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์

ระดับ ( LDL ) ในเลือด

ควรต่ำกว่า100มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และ ไม่ควรเกิน130มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

อันที่จริงแล้วเราไม่มีน้ำย่อยสำหรับในการย่อยไข่ขาวการที่รับประทานไข่ดิบนั้นเราไม่ได้นิยมให้รับประทานเพราะฉะนั้นเนื่องจากว่าเวลาเรารับประทานไข่ในไข่ดิบเปลือกไข่นั้นจะมีเชื้อโรคหลายตัวเช่นเดียวกัน เช่น เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นอันตรายเพราะฉะนั้นเราถึงไม่นิยมให้รับประทานไข่ดิบกันแต่ไข่นั้นมันควรที่จะเป็นแบบสุขจะดีกว่าอย่างเช่น ไข่ดาว หรือจะเป็น ไข่ต้ม ถ้าต้มแบบยางมะตูมก็ถือว่าใช้ได้แต่อย่างน้อยในตัวไข่ขาวนั้นต้องสุขมันถึงจะมีประโยช์น 

ถ้าหากว่าเรารับประทานโปรตีนที่กำเนิดหนึ่งวันโดยเฉลี่ยประมณ50กรัมถ้าวันหนึ่งเรากินไข่แล้วกินเนื้อสสัตว์อีกและกินโปรตีนเกินกว่าที่ร่างกายกำเนิดโปรตีนนั้นเมื่อกินเสร็จแล้วมันได้เผาเสร็จมันก็ได้ของเสียที่ชื่อว่า ( แอมโมเนีย ) และก็ได้เปลี่ยนไปเป็น ( ยูเรีย ) และก็ไปเอาออกที่ปัสสาวะ

 

สนับสนุนโดย  sagame

bookmark_borderผลไม้บำบัดโรค

ผลไม้บำบัดโรคและมีโปรตีนคบหลัก5หมู่

วันนี้เราจะมาพูดถึงผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเราจะกินอย่างไรกินแบบไหนเพื่อให้ร่างกายของเรานั้นได้รับประโยชน์ได้อย่างเต็มที่หลายคนก็บอกว่าในการที่จะกินผลไม้บางคนกินข้าวเสร็จแล้วค่อยกินผลไม้ตบท้านทีหลังมันจะเป็นอย่างไรประเทศไทยนี่ดีมี ก. ถึง ฮ. กล้วยเกิดมาเริ่มที่จะอย่านมหรือว่าน้ำนมแม่ไม่ค่อยมีก็นึกอะไรไม่ออกบอกไม่ถูกก็ขุดกล้วยให้กินเด็กคนไหนที่กินกล้วยเอาไปแล้วเป็นอย่างไรก็โตเอาๆเพราะในกล้วยกล้วยนั้นเป็นผลไม้ที่มีโปรตีนมีคาร์โบไฮเดรตไขมันวิตามิน เกลือแร่

ซึ่งในกล้วยจะมีทั้งหมดที่คบถ้วนเพราะฉะนั้นยืนยันเลยว่าใครก็ตามวันนี้คุณเป็นความดันเบาหวานหัวใจคอเลสเตอรอล อ้วนมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และ โรคถุงลมโป่งพอง ในยามเช้าตื่นขึ้นมาดื่มน้ำอุ่นถ้วยกาแฟตามด้วยกล้วย1ลูกเพราะฉะนั้นยืนยันพวกที่เป็นโรคกรดไหลย้อนคนที่เป็นเบาหวานคนที่เป็นหลายอย่างให้ลองทำดูคนที่อย่างลดความอ้วนลองดู กินกล้วยก่อนอาหาร

เพราะฉะนั้นเราเข้าใจผิดในการกินเพราะฉะนั้นเราจึงกินของที่มันคาวก่อนเป็นของที่ย่อยยากก่อนทำไมเราไม่กินของที่มันย่อยง่ายและมันก็ดีต่อสุขภาพก่อนฝรั่งก่อนที่เขาจะทานข้าวนั่งโต๊ะเขาจะทานผลไม้ก่อนเพื่อที่ทำให้มันไปกระตุ้นน้ำย่อยเมื่อมันได้เข้าไปกระตุ้นน้ำย่อยแล้วเม่อเรารับประทานเนื้อเข้าไปมันก็จะมีน้ำย่อยมาย่อยเนื้อ

แต่ว่าเมื่อรับประทานผลไม้เข้าไปตอนแรกร่างกายพอเคี้ยวข้าวย่อยในปากแล้วผ่านหลอดอาหารเข้าไปยันกระเพราอาหารแล้วจากนั้นมันก็จะดูดซึมที่ลำไส้เล็กต้นที่1ฝ่ามือเท่านั้นลำไส้ของนกยาวกว่าลำตัวถึง7เท่าแต่ว่ากระบวนการย่อยดูดซึมกระบวนการย่อยที่กระเพราะแต่ดูดซึมที่ฝ่ามือแรกของลำไส้เล็กเพราะฉะนั้นอยากได้อาหารดีๆเพื่อเข้าสู่ร่างกายดื่มน้ำอุ่นตามด้วยผลไม้แต่จากงานวิจัยนั้นเราก็ยังได้พบอีกว่าจริงๆแล้วร่างกายเรานั้นนอนมาทั้งคืนร่างกายเสียกูโค้ดเอาน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นสักหน่อย

สักประมาณครึ่งช้อนใครก็ตามที่รักประทานน้ำอุ่นและเติมด้วยน้ำผึ้งครึ้งช้อนก่อนอาหารเช้าเป็นประจำทุกวันเบาหวานความดันหัวใจคอเลสเตอรอลอ้วนมะเร็ง แต่ต้องทำเป็นประจำทุกวันยิ่งถ้าเราไม่ผสมกับน้ำชาก็ยิ่งดีเปลี่ยนตัวเองจากกระบวนการรับประทานกาแฟตอนเช้าเป็นการรับประทานน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนค่อยๆจิบจากนั้นก็ตามด้วยน้ำผึ้งตบท้ายด้วยกล้วยโดยเฉพาะกล้วยไข่ทำไมต้องเป็นกล้วยไข่เพราะจากงานวิจัยในกล้วยไข่1ลูกสามารถช่วยปกกันโรคออฟฟิศซินโดรมได้

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  nowbet

bookmark_borderเคล็ดลับการกินอย่างไรให้สุขภาพดี

อาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละมื้อนั้น จะมีประโยชน์ หรือมี่โทษมากกว่ากันก็ขึ้นอยู่ที่เราเลือกกัน อาหารที่มีขายให้เราเลือกกินั้นไม่ได้กินแล้วจะมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเดียว มีผลเสียต่อร่างกายก็เยอะ

ดังนั้นวันนี้เราจะมีแนะนำเคล็ดลับการกินอาหารอย่างไร ถึงจะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี 

  1.  ต้องทานอาหารในมื้อเช้าทุกวัน  เพราะอาหารที่สำคัญที่สุดคืออาหารเช้า ดังนั้นหากเราไม่ทานอาหารเช้าจะทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากมายหลายชนิด และอาหารมื้อเช้าคือการเติมพลังงานให้กับร่างกายดังนั้นหากเราไม่กินอาหารเช้าจะทำให้เราไม่มีแรงในการทำงาน ดังนั้นอาหารเช้าที่ควรเลือกกินจึงควรเป็นอาหารที่ให้พลังกับเราอย่างมาก เช่น ไข้ต้ม  แซนวิชไฮลเกรน และผลไม้ชนิดต่างต่าง
  2. ต้องกินโปรตีนให้เพียงพอกับที่ร่างกายของเราต้องการ เพราะโปรตีนมีคุณสมบัติในการเข้าไปช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกเหรอ และยังช่วยเรื่องการปรับการทำงานของฮอร์โมนในร่างกายให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นโปรตีนจึงมีความสำคัญต่อร่างกายของคนเราเป็นอย่างมาก การกินโปรตีนที่ให้พลังงานสูงคือ การกินเนื้อปลา นม และเต้าหู้ รวมถึงถั่ว 
  3. ควรเลือกกินคาร์โบไฮเดรตให้เป็น หลายคนกินแป้งแต่กินแป้งที่เป็นแป้งขาว บางคนไม่กินแป้งเลยเพราะต้องการลดความอ้วน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย การคาร์โบไฮเดรตทีดีนั้น ควรเลือกที่จะกิน ข้าวกล้องแทนการกินข้าวขาว  หรือข้าวโอ๊ตแทน หรือการกินขนมปังก็ควรเป็นขนมปังโฮวีต 
  4. กินน้ำในปริมาณที่เพียงพอแต่ความต้องการของร่างกาย เพื่อช่วยให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การไหลเวียนของเลือดดี และกินน้ำเยอะเยอะร่างกายจะสดชื่น การกินน้ำที่ถูกต้องควรกินน้ำแบบค่อยค่อยจิบไม่ควรกินทีเดียวหมดขวด และปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อร่างกายก็คือ ประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน
  5. กินอาหารที่มีโอเมก้า3  เพื่อให้เข้าไปช่วยบำรุงสมอง และช่วยให้ผิวพรรณสวยเปล่งปลั่ง ซึ่งเราสามารถเลือกกินปลาแซลมอน  หากงบน้อยก็กินปลาทุ ปลากะพงขาว รวมถึงหากเราเครียด รับรองว่าทานปลาแล้วจะช่วยลดความเครียดลงได้ เพราะการกินปลาจะมีสารที่ไปกระตุ้นให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดความเครียด
  6. กินอาหารที่ให้พลังงานครบทั้ง5 หมู่ เพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และนำสารอาหารที่ได้รับไปพัฒนาบำรุงสมอง บำรุงหัวใจและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
  7. หากหิว ของว่างระหว่างวันที่เรากินเข้าไปก็สามารถช่วยให้เราให้เครียดและรู้สึกผ่อนคลายลงได้ ทำให้ร่างกายสดชื่น ซึ่งระหว่างมื้อควรทานอาหารที่ไม่ต้องมีพลังงานเยอะมากนักเพราเป็นการกินเสริม ควรกินผลไม้ ดีที่สุด

bookmark_borderกินวิตามินซีมากเกินไปก็มีอันตรายกับร่างกาย

รู้หรือไม่การกินวิตามินซีมากเกินไปก็มีอันตรายกับร่างกายได้เหมือนกัน

     โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าวิตามินซีนั้นมีประโยชน์กับร่างกายจึงพยายามหาวิตามินซีมากินทั้งแบบการแปรรูปที่เป็นเม็ดยาทั้งในรูปแบบของผักและผลไม้แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการที่เรากินวิตามินซีมากเกินไปนั้นก็ส่งผลต่อร่างกายได้เหมือนกันซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่าผลเสียที่ตามมาจากการที่เราต้องกินวิตามินซีมากจนเกินไปนั้นมีผลเสียอะไรบ้าง

     ถึงแม้นว่าตั้งตำราเรียนจะมีการระบุไว้ว่าวิตามินซีเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์และการที่เรากินวิตามินซีเข้าไปมากๆนั้นก็ไม่ได้ทำให้เกิดโทษกับร่างกายแต่อย่างใดโดยมีการจัดอันดับความปลอดภัยของสารอาหารหากมีการกินเกินจากที่ร่างกายต้องการพบว่าวิตามินซีคือสารอาหารที่ปลอดภัยมากที่สุดแล้วโดยมีการระบุเอาไว้ว่าถึงแม้เราจะมีการกินวิตามินซีมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการก็จะไม่ทำให้เราเป็นโรคร้ายแรงอะไรแต่ในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นโรคแต่การกินวิตามินซีที่มากจนเกินไปก็ส่งผลเสียต่อระบบภายในร่างกายของเราได้ไม่ว่าจะเป็นระบบของการย่อยระบบของการดูดซึมเรามาดูกันว่ามีโรคอะไรบ้างที่เกิดจากการที่เรากินวิตามินซีมากเกินไป

     สำหรับร่างกายคนเรานั้นโดยทั่วไปแล้วคุณจะได้รับวิตามินซีไม่เกิน 2000 มิลลิกรัมต่อวันและ ถ้าหากเรามีอายุน้อยลงปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการก็จะน้อยลงตามไปด้วยเช่นอายุแค่เพียงหนึ่งถึงสามขวบควรได้รับวิตามินซีแค่เพียง 15 มิลลิกรัมก็พอหรือถ้าอายุประมาณ 15 ถึง 18 ปีควรได้รับวิตามินซีปริมาณ 75 มิลลิกรัมต่อวันก็พอซึ่งถ้าหากเรากินวิตามินซีมากกว่าที่ร่างกายต้องการจะส่งผลให้เราพบปัญหาท้องอืด, ท้องร่วง, เวียนหัว, นอนไม่หลับอาจจะรู้สึกไม่สบายท้องเช่นปวดท้อง

หรืออาจจะเป็นตะคิวที่ท้องได้ อันที่จริงแล้ววิตามินซีมีความสำคัญกับร่างกายเป็นอย่างมากแต่หากเรากินในปริมาณที่มากเกินไปก็ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายของเราเช่นเดียวกันเพราะอะไรที่มากไปหรือน้อยไปย่อมไม่ส่งผลดีต่อร่างกายอยู่แล้วดังนั้นเราจึงควรเลือกกินอาหารให้เหมาะสมให้พอเหมาะกับที่ร่างกายต้องการเพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียตามมาต่อร่างกาย

เพราะอันที่จริงแล้วหากเรากินวิตามินซีเค้าไปมากเท่าไหร่ร่างกายจะนำวิตามินซีที่เรากินเข้าไปมาใช้งานแค่เพียงตามที่ร่างกายต้องการเท่านั้นส่วนที่เหลือก็จะมีการขับถ่ายออกมาเป็นของเสียออกจากร่างกายซึ่งถ้าหากเรากินมากเกินไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับเราเลย

bookmark_borderน้ำมะพร้าวดีต่อสุขภาพอย่างไร

จะเห็นได้ว่ามะพร้าวคือผลไม้ชนิดหนึ่งที่ใครต่อใครชื่นชอบซึ่งมะพร้าวนั้นมีรสชาติเรียกว่าอร่อยหอมหวานชื่นใจหากได้กินสำหรับมะพร้าวนี้เรียกได้ว่าน้ำของมันเป็นที่โปรดปานของใครต่อใคร ซึ่งเพราะเหตุนี้มะพร้าวจึงแตกต่างจากผลไม้ชนิดอื่นอย่างเห็นได้ชัดเราจะเห็นได้ว่ามะพร้าวนั้นเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ค่อนข้างสูงมันมีสรรพคุณที่สามารถช่วยบำรุงร่างกาย นอกจากมะพร้าวนั้นจะเป็นการคลายร้อนแล้วประโยชน์ของมันยังมีมากอีกด้วย

ประโยชน์ของมะพร้าวมีอะไรบ้าง

มะพร้าวมีไขมันดีในปริมาณที่สูง

เราจะเห็นได้ว่าไขมันในมะพร้าวเป็นไขมันที่ต้องบอกว่าพอเหมาะซึ่งมันคือไขมันอิ่มตัวชนิดที่ดีเพราะมันสามารถเป็นการขับออกจากร่างกายของเราได้หากเรากินแล้วเราจะไม่อ้วนนั่นเองแต่ทว่าหากกินมากเกินไป ไขมันเหล่านั้นก็จะกลายเป็นไขมันสะสมในร่างกายของเราได้เช่นกัน

มะพร้าวช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้

คุณรู้หรือไม่ว่ามะพร้าวสรรพคุณของมันนั้นดีกว่าที่เรารู้เพราะมันช่วยเสริมสร้างความจำซึ่งดีต่อผู้ที่เป็นอัลไซเมอร์โดยผู้คนเหล่านี้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเป็นอัลไซเมอร์นี้มักจะใช้มะพร้าวในการรักษาเช่นกัน

มะพร้าวช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

กล่าวคือสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานหากมีความต้องการ กินน้ำมะพร้าวสามารถกินได้โดยน้ำมะพร้าวเหล่านี้ปลอดภัยสำหรับพวกเขาเพราะในน้ำมะพร้าวมีไฟเบอร์สามารถละลายน้ำได้และสามารถลดน้ำตาลในเลือดสูงได้เช่นกัน

มะพร้าวช่วยบำรุงกระดูกให้แก่เราได้นะ

โดยมะพร้าวเหล่านี้จะมีปริมาณที่เป็นแคลเซี่ยมที่พอเหมาะกับการเสริมสร้างที่ทำให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรงได้ซึ่งในส่วนนั้นจะเป็นส่วนของกระดูกภายในร่างกายของเราและที่สำคัญมันยังเพิ่มชั้นความหนาที่เป็นกระดูกอ่อนและยังสามารถลดอัตราเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี

มะพร้าวช่วยในการขับปัสสวะได้นะ

หากท่านใดที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปัสวะ ติดขัดหรือยากจนเกินไปควรทานน้ำมะพร้าวเพราะมันจะเป็นการบรรเทาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้ซึ่งหน้าที่ของมันจะเป็นการขับสารพิษที่อยู่ในร่างกายของเราหรือเป็นการขับของเสียที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราเพื่อเป็นการช่วยให้ระบบการทำงานภายในของเราออกมาได้ปกติ

มะพร้าวสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้

เราจะเห็นว่ามะพร้าวนั้นมีโพแทสเซียมเป็นการทำหน้าที่ที่เกี่ยวกับการสร้างความสดชื่นต่อร่างกายของเราและสิ่งเรานั้นยังสามารถลดระดับของโซเดียมที่เป็นส่วนเกินภายในร่างกายของเราเพื่อกลับมาหายเป็นปกติซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการลดความดันโลหิตให้แก่เราได้อีกด้วยดังนั้น ผู้ที่เป็นเกี่ยวกับความดันโลหิตสามารถทานน้ำมะพร้าวเพื่อเป็นการช่วยเหลือหรือซ่อมแซมในส่วนที่บกพร่องของร่างกายได้